วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มีน้องหมาของใครบ้างที่ขนร่วงจากสาเหตุของภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลบ้างคะ

ถาม:
คุณหมอที่รักษาเจ้าย่น พันธ์ปั๊ก ที่บ้าน เค้าบอกว่า ย่นน้อยของเรา อาจจะเป็นเกี่ยวกับ ฮอร์โมน  ต้องพาไปตรวจเลือด รพ.เกษตร ฯ
อาการของเค้าคือขนร่วง ทั้งสองข้าง คือ ด้านซ้ายและขวา เท่าๆ กัน จะไม่ร่วงแค่ด้านใดด้านหนึ่ง   

เลยอยากทราบว่า มีลูกๆ ของใครบ้างที่เป็นอาการแบบนี้คะ

ตอบ:
เก็บข้อมูลมาฝากจาก google ค่ะ

ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล  เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ฮอร์โมนคอร์ดิซอลสูงเกินไป ขาดฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล เป็นต้น  การรักษาทำได้โดยเสริมฮอร์โมนที่ขาด หรือใช้ยาควบคุมระดับฮอร์โมนที่สูงเกินค่าปกติ แต่ต้องทำการรักษาอย่างระมัดระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงจากการรักษาได้  สุนัขหลายตัวที่ขนร่วงเพราะฮอร์โมนเพศไม่สมดุลสามารถรักษาอาการขนร่วงได้โดยการทำหมัน  อย่างไรก็ตามอาจพบได้ว่าหลังจากทำหมันแล้ว สุนัขปกติบางตัวจะมีอาการขนร่วงอยู่ช่วงหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะขนจะขึ้นได้เอง โดยไม่ต้องได้รับการรักษาใด ๆ หรือแค่กินยาบำรุงขนก็พอ

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ต้องเตรียมยาฉีดให้น้องหมาด้วยตนเอง รบกวนสอบถามขั้นตอนหน่อยค่ะ

ถาม:


น้องหมาเป็นเบาหวานค่ะ ต้องฉีดอินซูลินให้ทุกวัน แรก ๆ คุณหมอเตรียมใส่เข็มฉีดยาให้ค่ะ มาถึงเราก็ฉีดอย่างเดียว
แต่ตอนหลังคุณหมอให้ไปซื้ออินซูลินมาฉีดเอง ไม่ทราบว่ามีขั้นตอนเตรียมอย่างไรบ้างค่ะ
พอดีคุณแม่พาน้องหมาไป ไม่ได้สอบถามมาค่ะ

ขวดอินซูลินมีจุดยางปิด สามารถแทงเข็มลงไปได้เลยใช่ไหมค่ะ แล้วต้องหาอะไรมาปิดไว้หรือป่าว?

ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นมากค่ะ

ตอบ:
รูปแบบอินซูลินมี 2 ประเภท

·         อินซูลินชนิดใส จะเหมือนน้ำบริสุทธิ์ ไม่มีสี เป็นยาฉีดที่ให้ผลรวดเร็ว หลังฉีดประมาณ 30 นาที แต่มีช่วงเวลาออกฤทธิ์เพียง 6 ชั่วโมง (โดยประมาณ)
·         อินซูลินชนิดขุ่น จะมีตะกอนเล็กๆ แขวนลอยอยู่ เพื่อการออกฤทธิ์นานประมาณ 16 – 20 ชั่วโมงมากยิ่งขึ้น


การเตรียมยา

·         ก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง ให้ตรวจดูลักษณะยา ถ้าเป็นชนิดน้ำใส ต้องไม่หนืด ไม่มีสี ถ้าเป็นชนิดน้ำขุ่นแขวนตะกอน ให้คลึงขวดยาบนฝ่ามือทั้งสองข้างเบาๆ เพื่อให้ยาผสมกันทั่วทั้งขวด ห้ามเขย่าขวดอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดฟอง ซึ่งจะอันตรายเมื่อนำไปฉีด
·         ถ้าใช้อินซูลิน ทั้งชนิดน้ำขุ่นและน้ำใสในเวลาเดียวกัน ให้ดูดยาชนิดน้ำใสก่อนเสมอ เพราะสามารถสังเกตได้ หากอินซูลินน้ำใสมีลักษณะเปลี่ยนไป เมื่อดูดยาสองชนิดผสมในเข็มเดียวกัน ควรฉีดทันทีหรือภายใน 15 นาที เพราะหากทิ้งไว้นาน จะทำให้การออกฤทธิ์ของยาเปลี่ยนไป

เคล็ดลับเก็บรักษาอินซูลิน

·         ควรเก็บอินซูลินไว้ที่อุณหภูมิ 2 – 8 องศาเซลเซียส ถ้ายังไม่เปิดเก็บได้นานเท่ากับอายุยาข้างขวด ถ้าเปิดใช้แล้วเก็นในตู้เย็นไม่เกิน 3 เดือน
.          สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง (ประมาณ 25 องศาเซลเซียส) ได้นานประมาณ 1 เดือน
.          อินซูลินที่เก็บในอุณหภูมิสูง เช่น กลางแดดจัด หรือที่อุณหภูมิต่ำมากๆ เช่น ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากยาเสื่อมคุณภาพ

วิธีดูดยาจากขวด
1. ทำความสะอาดจุกขวดยาด้วยสำลีชุบอัลกอฮอล์ 70% โดยวิธีหมุนจากจุดที่แทงเข็มวนออกด้านนอกจนถึงคอขวดยา (ถ้ามีแผ่นโลหะปิดอยู่บนจุกยางให้ดึงออกแล้วทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง) ปล่อยให้อัลกอฮอล์แห้ง
2. แก้ห่อกระบอกฉีดยาโดยระวังมิให้เกิดการปนเปื้อน
3. สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่นพอประมาณ
4. ถอดปลอกเข็มออก ดูดอากาศเข้ากระบอกฉีดยาเท่าปริมาณยาที่ต้องการ
5. แทงเข็มเข้าจุกยางใช้นิ้วหัวแม่มือดันลูกสูบให้อากาศเข้าขวดยาจนหมด
6. คว่ำขวดยาลง โดยให้นิ้วดันลูกสูบอยู่ ปรับให้ปลายตัดเข็มอยู่ในน้ำยา
7. ค่อย ๆ ปล่อยนิ้วที่ดันลูกสูบออก น้ำยาจากขวดจะไหลเข้ามาในกระบอกฉีดยา เมื่อได้ยาครบตามปริมาณที่ต้องการ ถอนเข็มและกระบอกฉีดยาออกจากจุกขวด
(เท่าที่เคยใช้ ขวดอินซุลินจะเล็ก และเราใช้ยาปริมาณน้อย ไม่จำเป็นต้องแทงเข็มสองเล่มแบบคห.2 คะ เพราะจะเพิ่มโอกาสปนเปื้อนเชื้อ การแทงเข็มสองเล่มจะใช้เมื่อต้องการดูดยาปริมาณมากๆ เพื่อความรวดเร็ว)

วิธีฉีด
1. ล้างมือให้สะอาด
2. เตรียมยาฉีดตามหลักการปลอดเชื้อ (แบบคห.6)
3.เลือกตำแหน่งที่ฉีดยา หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีรอยถลอก อักเสบ ช้ำ บวมหรือรอยแผลเป็น ในการฉีดครั้งต่อไป ควรฉีดห่างจากจุดเดิม 1 นิ้ว
4.เช็ดบริเวณที่จะฉีดยาด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70 % เช็ดเป็นวงกลมจากตรงกลางออกด้านนอก
5.ถอดปลอกเข็มออก
6.ขณะที่รอให้แอลกอฮอล์แห้ง ไล่อากาศในกระบอกฉีดยาโดยจับกระบอกฉีดยาให้ตั้งตรงค่อยๆดันลูกสูบจนกระทั่งเห็นยาเข้าไปอยู่ในหัวเข็ม ตรวจสอบจำนวนยาให้ถูกต้อง
7.จับผิวหนังให้ตึง โดยยกขึ้นหรือดึงลง จับกระบอกฉีดยาให้ปลายตัดของเข็มหงายขึ้น แทงเข็มฉีดยาทำมุม 45 องศากับผิวหนัง
8.ดึงลูกสูบออกเล็กน้อยเพื่อทดสอบว่าปลายเข็มแทงถูกหลอดเลือดหรือไม่
ถ้าไม่พบเลือดในกระบอกฉีดยาให้ดันยาเข้าไปช้าๆจนหมด
9.ใช้สำลีแห้งวางเหนือจุดแทงเข็ม ดึงเข็มออกโดยเร็วตามทิศทางเดียวกับที่แทงเข็ม เลื่อนสำลีกดรอยเข็ม
10.ถ้ามีเลือดออกให้ใช้สำลีแห้งหรือก๊อซกดไว้ซักระยะจนกว่าเลือดจะหยุด ห้ามนวดตรงที่ฉีด
11.เก็บเครื่องใช้และทำความสะอาดให้ถูกวิธี(จริงๆถ้าเปลี่ยนเข็มและไซริงได้ทุกครั้งจะดีที่สุดแต่เปลือง) ถ้าจะใช้ซ้ำต้องระวังความสะอาดคะ ตัวเข็มแนะนำให้เปลี่ยนทุกครั้งเนื่องจากโดนเลือดซึ่งเลือดเป็นอาหารที่เชื้อโรคชอบมากคะ ไซริงถ้าไม่โดนเลือดเก็บให้สะอาดในตู้เย็นใช้ซ้ำได้คะแต่ไม่ควรเกิน3วัน (ไม่ต้องเอาไปล้างนะคะ ถ้าล้างแล้วต้องนึ่งฆ่าเชื้อ ซึ่งไม่คุ้มคะ)
8. ไม่ต้องหาอะไรมาปิดตรงจุกยางคะ แต่ต้องระวังอย่าให้ไปโดนอะไรที่ไม่สะอาด เก็นใส่กล่องเล็กๆไว้ก็ได้คะ

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รบกวนถามเรื่องหลังคลอดหของแม่หมา

ถาม:

ลูกสาวคลอดลูกได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้วค่ะแต่ก็ยังมีเลือดไหลออกจากจิ๊ปิ๊อยู่ไม่รู้ว่าปกติรึเปล่าคะ หรือว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรใครรู้บ้างคะ ว่าจะพาไปหาหมอแต่อยากถามเพื่อน ๆ ในห้องก่อนว่าเป็นปกติหรือไม่น่ะค่ะ แต่อาการทั่วไปก็ปกตินะคะร่าเริงกินเก่ง แต่จะมีก็น้ำนมน้อยไปหน่อยน่ะค่ะ ใครทราบรบกวนด้วยนะคะ

ตอบ:

เท่าที่มีประสบการณ์มานะครับ
การที่ยังมีเลือดไหลไม่หยุดนั้น  อาจเป็นเพราะ...
บางชิ้นของก้อนรกอาจจะยังค้างอยู่ในมดลูก

ซึ่งร่างกายจะค่อย ๆ ย่อยสลาย  จะเห็นเป็นเลือดที่ซึม ๆ ออกมา
จะให้แน่ใจ คงต้องพาไปหาคุณหมอ ให้วินิจฉัยอาการอีกที

สำหรับหมาของผม  ก็ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ปล่อย
ถ้าเขาไม่ได้แสดงอาการผิดปกติจนน่าวิตก  คงจะฟื้นตัวได้ในเร็ววัน

ที่น้ำนมน้อย  เวลามันคลอด คงไม่ได้ให้กินถุงรก
ว่ากันว่า เป็นชิ้นส่วนที่ช่วยบำรุงให้มีน้ำนมมากเชียวนะครับ

ถ้าในระหว่างที่มันตั้งท้อง  ได้บำรุงแคลเซี่ยมถูกตามปริมาณแล้ว
ปัญหาเรื่องมันจะชัก เวลาให้นมลูกมาก ๆ คงจะไม่มี

แต่ถ้าขาดแคลเซี่ยม  ก็ควรดูแลสุขภาพหลังคลอด และให้นมลูกไปแล้ว
ประมาณสองสามอาทิตย์  ถ้ามีอาการตะกุยตะกาย แกร็ก..แกร็ก..
คงต้องให้พบแพทย์ด่วนนะครับ  มันขาดแคลเซี่ยมครับ...

อย่าเพิ่งเชื่อที่ผมเขียนเล่ามานะครับ  ใช้วิจารณญาณให้ดีครับ !

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กลุ้มใจมากๆค่ะ ลูกสาว(สกูปปี้ดู)เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ สงสารลูกมากๆ แล้วเป็นได้ไง

ถาม:

พอดีเมื่อเย็นวันพฤหัส ได้พาเค้าไปวิ่งเล่นสนามจันทร์ตามปกติ เพื่อพบปะเพื่อนฝูงของเค้า (ปกติไปเกือบทุกวันถ้าฝนไม่ตก)  แต่เย็นนั้นพอเค้าเดินเล่นไปเรื่อยๆ ก็สังเกตว่าเค้าจะย่อฉี่ ย่อฉี่ ไปตลอดทางก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก (คือประมาณ 1 อาทิตย์มาแล้ว ที่เค้าจะทำท่าแบบนี้บ่อย ตอนแรกยังคิดว่าสงสัยจะหาที่ฉี่ได้ไม่ถูกใจเลยย่อไปเรื่อยๆ หรือไม่ก็แสดงอาณาเขต) แต่ปรากฎว่าเย็นนั้นเค้าไม่เล่นเลยเดินฉี่ ๆ ๆ ๆ ไปตลอดทาง

ก็เลยตัดสินใจพาลูกสาวไปหาหมอดีกว่า คุณหมอเลยบอกว่าน่าจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ได้ยามา 1 อาทิตย์ คุณหมอว่าถ้าไม่ดีขึ้นคงต้องพาน้องไปเจาะเลือดเพราะจะได้รู้ว่ามันผิดปกติ ตรงไหนหาค่าตับค่าไตอะไรพวกนี้

ตอนนี้สงสารลูกสาวมาก เพราะเค้าดูไม่ค่อยอยากเดินเลยไม่รู้เป็นอะไร ฉี่ทีก็ออกมานิดเดียว คุณหมอให้ป้อนน้ำเค้าให้ได้วันละอย่างน้อยวันละครึ่งลิตร ก็ต้องบังคับกันน่าดู

อยากรู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะเราไม่เคยให้ลูกสาวอดน้ำเลยมีกินตลอด พาไปฉี่ตลอด อาหารเกี่ยวมั๊ยหรือสาเหตุอะไร

สงสารลูกจัง

ตอบ:

ลองดูแลเขาด้วยแนวทางธรรมชาติบำบัดไหมคะ

กระเจี๊ยบแดง  รักษาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ สลายนิ่วค่ะ

ต้มนำ้กระเจี๊ยบแดงพอนำ้เดือด ดูสีแดงของนำ้ ไม่ให้ใส หรือแดงเข้มเกินไป
ในแมว ให้ครั้งละ 3 ซีซี 1-2 หลอด เช้า กลางวัน เย็น ใช้ลูกใต้ใบ แคปซูล ครั้งละ 1-2 แคปซูล เช้า เย็น ร่วมด้วยก็ดีค่ะ
ในสุนัข ปรับตามนำ้หนักตัว 3 กิโลกรัม ต่อ 3-6 ซีซี
ลูกใต้ใบ แคปซูล 5 กก. ต่อ 1 -2 แคปซูล

ปริมาณเกินบ้าง ไม่ต้องกังวล ไม่มีอันตราย เป็นสาร แอนโทไซยานินจากธรรมชาติ
ช่วยขับกรดยูริค และสลายนิ่ว รักษาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ และระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ในคน และสัตว์ค่ะ